ในวันนี้ ทีมงานฮิปโปแคมปัสได้สรุปประโยชน์ 10 อย่างที่องค์กรจะได้รับเพื่อการพัฒนาองค์กรทั้งภายในและภายนอกจากการเรียนรู้ในเวิร์คช็อป ดังนี้ค่ะ
1. ได้ส่งเสริมการโอบรับความหลากหลายอย่างจริงใจ: การเข้าร่วมเวิร์กช็อปที่ได้เรียนรู้แง่มุมต่างๆ เกี่ยวกับเรื่อง gender ทำให้พนักงานในองค์กรได้พัฒนาความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับอัตลักษณ์ทางเพศที่หลากหลายของตนเอง ของเพื่อนร่วมงาน และของคนกลุ่มใหญ่ในสังคม ความเข้าใจนี้จะช่วยเชื่อมโยงมุมมองเรื่อง gender กับบริบทในสังคมรวมทั้งองค์กรของตัวเอง ทำให้พนักงานสามารถร่วมสร้างกลยุทธ์เพื่อการพัฒนาแบรนด์ขององค์กรที่โอบรับความหลากหลายได้มากขึ้น
2. เพิ่มฐานลูกค้าได้มากขึ้น: ในขณะนี้ สังคมส่วนใหญ่เริ่มตระหนักและยอมรับอัตลักษณ์ทางเพศที่หลากหลายมากขึ้น พวกเขาจึงมองหาแบรนด์หรือองค์กรที่มีวิถีปฏิบัติและการสื่อสารสอดคล้องกับค่านิยมของตนเอง การเรียนรู้เกี่ยวกับบริบทหรือแง่มุมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง gender เมื่อนำไปรวมเข้ากับการสร้างแบรนด์ จะทำให้องค์กรสามารถออกแบบกิจกรรมและการสื่อสารที่น่าสนใจ น่าเชื่อถือ และเข้าถึงฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น
3. ได้สร้างแบรนด์ที่มีความแตกต่าง: ในตลาดที่มีการแข่งขันสูงอย่างปัจจุบัน ลูกค้าสามารถเปลี่ยนใจไปหาสินค้าหรือบริการที่ดีกว่า น่าเชื่อถือกว่า เท่าทันยุคสมัยมากกว่าได้ตลอดเวลา การสร้างความโดดเด่นที่ชัดเจนจากตลาดจึงเป็นสิ่งสำคัญ การนำมุมมองของคนจากทุกอัตลักษณ์ทางเพศมาใช้ในการออกแบบสินค้าหรือบริการ จะทำให้องค์กรมีความแตกต่างจากคู่แข่ง และสามารถวางตำแหน่งตัวเองในฐานะองค์กรที่เป็นผู้นำในการโอบรับความหลากหลายของสังคมด้วย
4. เพิ่มกำลังใจและความพึงพอใจของพนักงาน: การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานในองค์กรอย่างยอมรับและชื่นชมในลักษณะเฉพาะของกันและกัน ไม่ผลักใสหรือเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งความแตกต่าง เป็นสิ่งสำคัญที่จะสร้างกำลังใจและความพึงพอใจของพนักงาน เมื่อองค์กรสร้างวัฒนธรรมที่พนักงานรู้สึกมีค่าและได้รับความเคารพก็จะนำไปสู่ความพึงพอใจต่อองค์กรและมีประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น
5. เข้าถึงตลาดที่กว้างขึ้น: ด้วยการเรียนรู้และสร้างความเข้าใจถึงอัตลักษณ์ทางเพศที่หลากหลาย จะช่วยให้องค์กรสามารถเข้าถึงกลุ่มตลาดใหม่ที่ยังไม่เคยมีมาก่อนได้ ไม่ว่าจะด้วยการสื่อสารที่เป็นมิตรต่อคนกลุ่มใหม่ หรือการเข้าใจความชื่นชอบของกลุ่มคนที่มีอัตลักษณ์เฉพาะ ซึ่งส่งผลให้การเติบโตของธุรกิจเพิ่มขึ้น
6. ได้ปรับตัวให้เข้ากับบรรทัดฐานทางสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป: เนื่องจากทัศนคติและบรรทัดฐานทางสังคมนั้นมีวิวัฒนาการมาเรื่อยๆ และจะไม่หยุดนิ่ง การเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่อง gender จะช่วยให้องค์กรสามารถปรับกลยุทธ์การสร้างแบรนด์หรือการสื่อสารให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้อย่างเท่าทัน
7. สร้างชื่อเสียงของแบรนด์ในเชิงบวก: การแสดงตนว่าเป็นองค์กรที่โอบรับความหลากหลายเป็นการแสดงออกที่ทำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นขององค์กรที่จะสนับสนุนความหลากหลายและส่งเสริมความเท่าเทียมในสังคม สิ่งนี้สามารถเพิ่มชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของแบรนด์ ช่วยดึงดูดความสนใจจากผู้คน และส่งสารไปถึงคนที่มีความหลากหลายได้กว้างยิ่งขึ้น
8. แสดงความเป็นตัวจริงและความน่าเชื่อถือ: ลูกค้าย่อมให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่เป็นตัวจริงในเรื่องนั้นๆ และมุ่งมั่นที่จะสร้างความเท่าเทียมอย่างจริงใจมากกว่าจะจ่ายเงินซื้อสินค้าหรือบริการเฉยๆ หากองค์กรแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการทำความเข้าใจ เปิดรับ และให้ความเคารพต่ออัตลักษณ์ทางเพศที่หลากหลาย ก็จะเพิ่มความน่าเชื่อถือในสายตาของลูกค้าได้
9. สร้างวัฒนธรรมที่เปิดกว้างต่อทักษะและความสามารถของพนักงานองค์กร: เมื่อได้เรียนรู้ที่จะโอบรับลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคล องค์กรก็จะสามารถพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมความเข้าใจและสนับสนุนบุคคลที่มีอัตลักษณ์ทางเพศที่แตกต่าง สิ่งนี้จะนำไปสู่การมีปฏิสัมพันธ์ที่เคารพและเห็นอกเห็นใจลูกค้าและพนักงานมากขึ้น ทำให้คนในองค์กรได้แสดงออกถึงทักษะและความสามารถที่สนับสนุนองค์กรด้วย
10. เป็นองค์กรที่มีนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์: การเปิดรับมุมมองที่หลากหลายที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง gender สามารถจุดประกายนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ภายในองค์กรได้ ในกระบวนการเวิร์คช็อปจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและระดมไอเดียใหม่ๆ ซึ่งจะมีแนวทางการสร้างแบรนด์ที่หลุดพ้นจากแบบแผนแบบเดิมๆ ด้วยการรวบรวมความคิดเห็นและมุมมองที่หลากหลาย
เวิร์คช็อป Beyond Binary Branding เหมาะกับองค์กรที่ต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับประเด็น gender อย่างถูกต้องที่เท่าทันยุคสมัย เพื่อการนำไปปรับใช้ภายในองค์กรและการสื่อสารองค์กรอย่างเหมาะสมและชาญฉลาด รวมทั้งการค้นหากลุ่มลูกค้าใหม่ในเจเนเรชัน Y – Z – Alpha ที่ใส่ใจประเด็นทางสังคมโดยเฉพาะเรื่องความเท่าเทียม และคาดหวังให้องค์กรประพฤติปฏิบัติและสื่อสารความจริงอย่างรับผิดชอบด้วย
ทีมงานฮิปโปแคมปัสเข้าใจถึงความท้าทายในการปรับตัวของแต่ละองค์กรให้เท่าทันกับบรรทัดฐานของแต่ละยุคสมัย จึงได้ออกแบบกระบวนการที่สนุก สร้างการเรียนรู้และความเข้าใจอย่างเป็นธรรมชาติ ทีมงานของเรามีประสบการณ์การทำงานเรื่อง Gender Equality มากว่า 15 ปี และเป็นผู้ออกแบบกระบวนการเรียนรู้ (Learning Designer) ที่ใช้ Design Thinking และ Critical Thinking นอกจากนี้ เรายังเข้าใจในการสื่อสารของโลกยุคใหม่ และมีประสบการณ์ด้านการออกแบบและผลิตสื่อด้วย
หากสนใจติดต่อสอบถามเกี่ยวกับเวิร์คช็อป Beyond Binary Branding Workshop สามารถติดต่อได้ในช่อง Contact Us นะคะ หรือส่งอีเมลมาได้โดยตรงที่ metta@hippocampus.media หวังว่าเราจะได้ทำงานร่วมกันค่ะ
